4 เหตุผลที่องค์กรควรใส่ใจกับภาวะ Burnout ของพนักงาน

โลกธุรกิจที่มีความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และการแข่งขันที่มีความเข้มขันสูง ทำให้พนักงานซึ่งเป็นหนึ่งในทรัพยากรที่มีค่าที่สุดขององค์กร ต้องเผชิญกับความกดดัน และความท้าทายมากมาย
ปัญหา Burnout หรือภาวะหมดไฟในการทำงานจึงกลายเป็นประเด็นสำคัญที่ถูกพูดถึงมากขึ้นเรื่อยๆ
วันนี้ เหมียวขอมาแชร์ 4 เหตุผลหลัก ที่สามารถสรุปได้ว่า ทุกองค์กรควรให้ความใส่ใจกับการดูแลแก้ไขปัญหานี้ค่ะ

1. การ Burnout ของพนักงาน ส่งผลกระทบโดยตรงต่อประสิทธิภาพในการทำงาน
เมื่อเกิดภาวะ Burnout พนักงานมักจะขาดแรงจูงใจ ขาดสมาธิ และขาดความคิดสร้างสรรค์ ส่งผลให้ประสิทธิภาพโดยรวมในการทำงานลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งจะกระทบต่อผลการดำเนินงานขององค์กรอย่างมาก

2. อัตราการลาออกที่สูงขึ้น
พนักงานที่มีภาวะ Burnout มีแนวโน้มที่จะลาออกจากงานสูงกว่าปกติมาก การสูญเสียพนักงานที่มีความสามารถนำมาซึ่งต้นทุนในการสรรหาและการฝึกอบรมพนักงานใหม่ ซึ่งนอกจากจะทำให้เกิดต้นทุนที่สูงแล้ว ยังจะส่งผลเสียต่อความต่อเนื่องของธุรกิจอีกด้วย

3. สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน
ภาวะ Burnout ส่งผลกระทบต่อสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจของพนักงาน ทำให้เกิดความเครียด ความวิตกกังวล และปัญหาสุขภาพต่างๆ
องค์กรที่แสดงออกถึงความใส่ใจและการให้ความสำคัญในสุขภาพของพนักงาน มักจะสามารถจูงใจ และรักษาบุคลากรที่มีคุณภาพไว้ได้

4. ภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือขององค์กร
การดูแลเรื่องภาวะ Burnout แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจขององค์กรที่มีต่อพนักงาน ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและความน่าเชื่อถือ ทำให้องค์กรสามารถดึงดูดให้ผู้ที่มีความสามารถอยากเข้ามาร่วมงานกับองค์กรได้

การป้องกันและการจัดการปัญหา Burnout จึงเป็นความรับผิดชอบสำคัญที่องค์กรพึงมีต่อพนักงาน ผ่านการสร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดี ส่งเสริมความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน รวมถึงให้การสนับสนุนด้านการดูแลสุขภาพทั้งทางร่างกายและจิตใจ เพื่อให้พนักงานทุกคนสามารถทำงานได้อย่างมีความสุขและมีประสิทธิภาพในระยะยาวได้ค่ะ

@meow.karunpawee

#MeowKarunpawee #MormaeStyle
#EnergyMasteryProject #BoostYourPerformance #LifestyleAdaptation #WellnessRetreat
#KeyClientCommunication #StrategicCommunication #HighValueClient #ExceptionalService